ทุกคนเมื่อโตขึ้นหลุดจากการเรียนก็เข้าสู่การทำงาน หล า ยคนในตอนเรียนก็มักจะบ่นว่าเหนื่อยแล้ว แต่พอเข้าทำงานก็บ่นว่าเหนื่อยอีก แต่ความจริงแล้วไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ย่อมมีความเหนื่อยกันทั้งนั้นแหล่ะ ขึ้นอยู่ที่ว่าเราเหนื่อ กับอะไร ถ้าการเรียนอาจจะเหนื่อยกับครู กับเพื่อนการเดินทาง ก็เหมือนกับการทำงาน ที่อาจต้องเหนื่อยกับงาน เหนื่อยกับหัวหน้า คนร่วมงาน แต่ถึงเหนื่อยเราก็ต้องรู้จักวิ ธีอยู่ให้ได้ เ พ ร า ะหากไม่ทำงานก็คงไม่มีกิน
เมื่อเข้าสู่วัยทำงาน หล า ยคน มักจะหวนคิดถึงชีวิตวัยรุ่นวัยเรียน เ พ ร า ะอะไรนะหรือ เ พ ร า ะว่าความรู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำงานยังไงล่ะ บางคนถึงขั้นต้องปรึกษาเพื่อนพี่น้องเลยว่า ควรทำยังไงถ้ารู้สึกว่าไม่อย ากทำงานและเมื่อไปสอบถามมนุษย์เ งิ นเดือนว่ารู้สึกยังไงกับการทำงานเชื่อไหมว่า คนกว่า 80เปอร์เซน ตอบว่า เหนื่อยมาก แล้วที่เขาบ่นกันว่าเหนื่อยๆๆเนี่ย มันเหนื่อยกายหรือเหนื่อยใจกันล่ะ
ความเหนื่อยล้าของพนักงานออฟฟิศนั้นไม่เหมือนกับการทำไร่ทำนาหรอ ก เ พ ร า ะมันคือความเหนื่อยล้าที่ใจ ซึ่งอาจเกิดจากปัญหาความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน แ ร งกดดันในการทำงาน ภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิ ดชอบ การวิพากษ์วิจารณ์จากสังคม ความคาดหวังจากครอบครัว รวมถึงการทำงานติดต่อ กันเป็นเวลานาน แต่ที่หนักกว่านั้นคือ ความไม่สบายใจเหล่านี้ไม่ได้รับการกำจัดสักที พอสะสมนานวันเข้า มันก็เริ่มกัดกร่อนความมีชีวิตชีวาของพวกเขา น่ากลัวใช่ไหมล่ะ สิ่งที่ทำให้คุณเหนื่อยหน่ะไม่ใช่งานหรอ ก แต่เป็นคนที่คุณพบเจอในระหว่างทำงานต่างหากล่ะ
คุณต้องทำงานแบบพลีกายถวายชีวิต
รับเ งิ นเดือน มาแล้วก็ต้องทำงานให้คุ้ม 1 ปีหยุดแค่ไม่กี่วัน จะลาพักร้อนก็ย ากเย็นเหลือเกิน บางทีก็ยุ่งมากงานไม่เสร็จก็ต้องทำโอหรือไม่ก็หอบกลับมาทำที่บ้ าน จากผลการสำรวจพบว่า ประเทศไทย จีน และฟิลิปปินส์มีวันหยุดแค่ปีละ 10 – 5 วัน น้อยขนาดนี้จะเอาเวลาที่ไหนไปพักผ่ อ นใช้ชีวิตส่วนตัวล่ะ ทำงานสายตัวแทบข า ด เช้ามาแบกร่างไปทำงาน เย็น มาแบกงานกลับบ้ านด้วย ถึงไม่ใช่ฟรีแลนซ์แต่ก็ห้ามป่ ว ย ห้ามพัก ห้ามลานะจ้ะ
คุณไม่มีทางเดาได้หรอ กหัวหน้าคิดอะไรอยู่
ทำงานไม่เหนื่อยหรอ กแต่เหนื่อยเดาใจหัวหน้า ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะวันดีคืนดีไม่พอใจขึ้น มาจะไล่ออ กเมื่อไหร่ก็ได้ ลองคิดดูซิคำว่าลองทำดูของหัวหน้าก็ไม่ได้หมายถึงลองทำจริงๆหรอ กนะ เ พ ร า ะคุณจะต้องทำให้ดีทำไว และเวลาเสนออะไรแล้วเขาบอ กว่า ขอคิดดูก่อน คุณก็เลิกคิดเลิกหวังไปได้เลยนะไม่อนุมัติแน่นอน อีกอ ย่ างถ้าเขาถามความเห็นคุณ หน้าที่ของคุณคือ กล่าวคำชื่นชมความคิดของเขา และแสดงว่าเห็นด้วยเท่านั้น ห้ามขัดเด็ดข า ด
ใจเพื่อนร่วมงานนี่ไซร้ย ากแท้หยั่งถึง
ออฟฟิศไม่ได้เป็นที่ส่วนตัวของคุณคนเดียวถูกไหม คุณยังมีเพื่อนร่วมงานอีกหล า ยชีวิต ภายในห้องสี่เหลี่ยมนั้นจงระวังคำพูดของตัวเองให้ดี เ พ ร า ะคุณไม่รู้หรอ กว่าพูดอะไรไปแล้วกระทบใครเขาหรือเปล่า เช่น หัวร้อน ไม่พอใจการตัดสินใจอะไรสักอ ย่ างของหัวหน้า ต่างคนต่างเม้าท์ เล่าสู่กันฟัง แต่พอวันต่อมาเรื่องไปถึงหูหัวหน้างานซะงั้น ก็คุยกันอยู่แค่นี้ใครนะที่ไปฟ้อง
สิ่งที่ย ากกว่าการทำงานคือ การเข้ากับหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานให้ได้
สังเกตไหมว่า ทำงานที่ไหนก็มักจะเจอหัวหน้างานจอมจิกหรือเพื่อนร่วมงานจอมโบ้ย หัวหน้าชอบใช้งานกินเวลาพักผ่ อ นของคุณ แถมยังต ามจิกซะจนแอบสงสัยว่านี่คนหรือไก่ จิกเอาๆ เพื่อนร่วมงานก็ไม่น้อยหน้า ชอบผลักภาระงานอย ากๆมาให้ ทำไม่ได้ก็โยนๆ ไม่ถงไม่ถามเรื่องสุ ข ภ า พสักคำ อีกอ ย่ างนะ เวลาหัวหน้าสั่งงานก็บอ กแค่ว่าจะเอาอ ย่ างนู่นอ ย่ างงี้ ถ้าคุณคิดว่าผู้หญิงเข้าใจย ากที่สุด คิดผิ ดแล้วจ้ะ เ พ ร า ะหัวหน้ามาแ ร งแซงไปแล้ว หัวหน้าสั่งงานทีไรเป็นต้องสตั้นไป 3 วิก่อนทุกที 55555
โดยส่วนตัวแล้วผู้เขียน มองว่า การทำงานจะมีความสุขหรือไม่ขึ้นอยู่กับ 4 ปัจจัย คือ ลักษณะงาน หัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน และเ งิ นเดือนจริงๆ ความสัมพันธ์ระหว่างคนในออฟฟิศก็สำคัญนะ บางคนยอมลาออ กจากบริษัทที่จ่ายเ งิ นเดือนสูง เพียงเ พ ร า ะทนสภาพความอึดอัดในการทำงานไม่ไหว ทำงานเหนื่อยกายก็พอทน ยังต้องมาเจอเพื่อนร่วมงานห่วยๆ เจ้านายแ ย่ๆ ใครจะทนไหวล่ะ แต่ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจมนุษย์ออฟฟิศทุกคนนะจ้ะ เหนื่อยจนคิดอะไรไม่ออ กก็ท่องไว้ คิดจะพักคิดถึงภาระ กัดฟั นต่อสู้กันต่อไปจ้า
ที่มา s h o o t 2 c h i n a jingjai999
