ในช่วงที่ผ่าน มามีข่าว พนักงาน โด น ป ล ดกระทันหัน บริษัท เลิกจ้า ง หรือ ปิ ด กิ จ กา ร แบบไม่ทันได้ตั้งตัวเห็นแบบนี้แล้ว ก็ทำให้รู้สึกได้ว่า อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ตลอ ดเวลา และถ้าเรายังไม่ยอมปรับตัว ก็อาจจะทำให้ลำบากในอนาคตได้ผมได้มีโอกาสรู้จักพนักงานในบริษัทแห่งหนึ่งชีวิตก็เหมือนกับพนักงานคนอื่นๆทั่วไปที่มีห นี้สิน ห นี้บัตรเครดิต ไว้
ผ่ อ นของที่อย ากได้มีเ งิ นใช้แบบเดือนชนเดือน บางเดือนก็ไม่พอใช้ ต้องไปห า ยืมคนอื่น มาใช้จ่ายไปก่อนเ พ ร า ะเขามีแนวคิดที่ว่า ต้องเป็นห นี้ถึงจะมีแ ร งกร ะตุ้ นในการทำงาน5 ปีแรก ของการเริ่มต้นทำงาน จึงต้องอยู่กับการใช้ห นี้บัตรอ ย่ างเดียวต้องคอยใช้ห นี้ที่ตัวเองได้ก่อไว้ ตลอ ดการทำงานที่ผ่าน มาหล า ยปีเมื่อถึงวันหนึ่ง ก็เริ่มรู้สึกว่าทนไม่ไหวกับภาระห นี้สินที่
แบกไว้เขาอย ากที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ จึงโยนบัตรทุกใบทิ้งหมด คืนรถยนต์ที่ผ่ อ น มาเป็นปีย้ายออ กจากคอนโดหรูเดือนละ 1 หมื่น ไปอยู่ที่ห้องเช่าเล็กๆ เดือนละ 1,200จากห้องนอนหรู ส่วนตัว มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม ก็ต้องมาใช้ห้องน้ำรวมแทนจากเคยกิน สเต็ก ชาบูเดินห้างดูหนังกับเพื่อนๆอยู่เป็นประจำ ก็เลิกไปเขาต้มไข่ 1 ฟอง ละล า ยพริกน้ำปลาไปกินที่
ทำงานกลับมาบ้ านลูกชิ้น 1 ไม้ และ ข้าวที่หุงเอง หยอ ดน้ำดื่มจากตู้กดน้ำหยอ ดเหรียญเพื่อนที่ออฟฟิตตีตัวออ กห่าง เ พ ร า ะเขาไม่ไปกับสังคมเพื่อนกลุ่มนี้เหมือนเมื่อก่อนห่อข้าวกับไข่ต้ม มากินที่ทำงาน และกินน้ำฟรีที่บริษัทตกเย็น มา กินลูกชิ้นบ้ างมาม่าบ้ าง ไข่เจียวบ้ าง เน้นทำกับข้าวกินเองเพื่อจะได้ลดต้นทุนในการใช้จ่ายไปกับการซื้ ออ าห า รมากินเขาทำแบบนี้เป็นปีๆ
จากที่เป็นห นี้ กล า ยเป็น มีเ งิ นเก็บ 4-5 หมื่นเดือนไหนได้ค่าคอมมากก็ได้เก็บมาก แต่ก็ประหยัดมากขึ้นเขายังคงใช้ชีวิตเหมือนเดิม ห่อข้าวมากิน พักห้องเช่าห้องน้ำรวมจนวันนึงจุดเปลี่ยน ชีวิตมาถึงเขาต ากผ้าห่มไว้แต่กลับโ ด น ขโ ม ย ผ้าห่มเขาไม่ต้องการซื้ อผ้าห่ม และชุดเครื่องนอนด้วยเ งิ นสดเ พ ร า ะที่ผ่าน มารู้คุณค่าของ เ งิ น มากขึ้น ว่ามีค่ายังไงเขาจึงได้ตัดสินใจผ่ อ น
ผ้าห่มกับแขกที่แถวห้องเช่าในร้านข า ย 1,500 แขกให้ผ่ อ น สบายๆ 300 บาท 10 เดือน พร้อมด อ กเบี้ ย พอหารมาแล้วก็ตกวันละ 10 บาทเอง เขาจึงตัดสินใจผ่ อ นผ้าห่มคืนแรกที่นอน ใต้ผ้าห่มใหม่ ใจก็ครุ่นคิด ดอ กเท่าตัวเลยนี่หว่าจึงเกิดไอเดียข า ยผ้าห่มเ งิ นผ่ อ นให้เพื่อนร่วมงานเ พ ร า ะรู้ว่าพนักงานในบริษัทชอบผ่ อ นของ ไม่ชอบซื้ อเ งิ นสดเขาไปร้านข า ยชุดเครื่องนอน
ไปขอแค็ตต าล็อ กตัวอ ย่ างเครื่องนอนแบบต่างๆมาเอาไปข า ยให้เพื่อนในแผนกสั่ง วันเดียวได้เป็นสิบๆชุดดาวน์ 500 ผ่ อ น 300 บาท 10 เดือนต้นทุน 1,500 ได้กำไรเท่าบังเลยปากต่อปากไปถึง แผนกอื่นชวนกัน มาผ่ อ นไม่กี่เดือนเขาข า ยชุดเครื่องนอนในเพื่อนพนักงานนับร้อยชุดอาจจะมี โ ก ง บ้ าง หนีห นี้บ้ างแต่พอคำนวณดูแล้วก็ยังได้กำไรอยู่ดีจากพนักงานธรรมดา ตอนนี้มีเ งิ น
ให้ผู้จัดการกู้เขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งบัตรเครดิตได้ชีวิตสะดวกสบายกลับคืน มามีเ งิ นสด ซื้ อรถ ซื้ อบ้ านแต่เขายังคงทำตัวเรียบง่าย ในการใช้จ่ายเหมือนเดิมคงเป็น เ พ ร า ะความเคยชิน และสามารถปรับตัวกับรูปแบบชีวิตแบบนี้ได้ห่อข้าวมากินเหมือนเดิมแต่ อ าห า รดีกว่าเดิมต ามฐานะ จากเป็นห นี้ กล า ยเป็น มีเก็บเป็นแสนบทความนี้เขียนให้เห็นถึง
การรู้จักที่จะปรับตัว การรู้จักใช้เ งิ น ประหยัดอ ดออมแนวทางการใช้ชีวิตที่มองถึงสิ่งจำเป็น มาก่อน แบบไม่ยึดติดกับวัตถุในสังคมที่คนบอ กว่าเป็นของต้องมี ทั้งๆที่บางสิ่งก็ไม่ได้จำเป็นในชีวิต ประจำวันเลยอ ย่ าได้มองเรื่องการผ่ อ นของเอากำไรเท่าตัวของเขา เป็นเรื่องเอาเปรียบคนอื่นเ พ ร า ะกู้เ งิ นแบงค์ซื้ อบ้ าน ดอ กก็เท่าตัวเหมือนกัน ให้ดูที่ไหวพริบการพลิกชีวิตของเขาการที่
เขากล้าลดฐานะ ลดหน้าต าทางสังคมลงมาบ้ าง มันทำให้ชีวิตดีขึ้นตอนเขาห่อไข่ต้ม ห่อข้าวมากินที่บริษัท เพื่อนๆร่วมโต๊ะบางคนถึงกับลุกหนีมีซุบซิบบ้ าง นิ น ท า บ้ าง แล้วเป็นไง สุดท้าย คนเหล่านั้นก็ต้องมากู้เ งิ นเขาใช้ลองดูที่ตัวเราครับ ดูตอนนี้ อะไรบ้ างในชีวิตที่ไม่จำเป็นก็ตัดออ กเคยอยู่ห้องเดือนละ 3,500 ลองไปดูห้องพัดลมแถวๆ ที่ทำงานเดือนละ 2,000 ดู ประหยัดไป
ได้เยอะเริ่มต้นจากเรื่องเล็กๆ ค่อยๆเก็บออมเ งิ นจำนวนเล็กๆ สักวันหนึ่งมันจะเป็นเ งิ นก้อนใหญ่ในยุคสมัยแบบนี้ถ้าไม่ประหยัดคงอยู่ย าก ถ้าไม่หาอาชีพเสริมก็คงจะไม่ร ว ยหากยังหลงอยู่ใน วัตถุต ามค่านิยมสังคม จะก่อร่างสร้างตัวก็คงจะลำบากถ้าวันนี้คุณซื้ อแต่ของที่อย ากได้ วันหนึ่งคุณก็ต้องข า ยของที่จำเป็นเพื่อความอยู่รอ ดอ ย่ าใช้จ่ายเ งิ นจนเกินตัว อ ย่ าอายที่จะทำตัวจน
ประหยัดใช้ ประหยัดจ่ายแต่จงอายที่ทำตัวอวดร ว ย แต่สุดท้ายก็ต้องไปห า ยืมเ งิ นคนอื่นอยู่ดีอะไรที่ยังไม่จำเป็น ก็ยังไม่ต้องซื้ อ มีเ งิ นเหลือมากพอค่อยซื้ อ ก็ยังไม่สายไปอ ย่ าไปแคร์สายต า คนอื่นที่มองเรา เวลาเราเป็นห นี้ ก็ไม่ได้มีใครมาช่วยจ่ายคิดได้ก่อน เก็บออมได้ก่อน ก็ร ว ยได้ก่อน ถ้าทำได้ก็อยู่รอ ดอยู่ที่ว่าจะทำหรือไม่
ที่มา คุณติ๊ก สิริทัศน์ สมเสงี่ยม fahhsai