เลี้ยงลูกให้ดีในยุคนี้ 10 สิ่งที่พ่อแม่ควรเลิกทำ

คนเป็นพ่อเป็นแม่ มักใช้ความเป็นผู้ใหญ่มองเ ด็ ก โดยบางครั้งก็ไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เ ด็ กคิดนั้นอาจเป็นอีกหนึ่งมุมมองของเขา มีหล า ยสิ่งหล า ยอ ย่ างที่พ่อแม่อาจไม่เคยรู้ ว่าสิ่งที่ทำกับลูกในทุกวันนี้อาจส่งผล ทําร้ า ยจิตใจลูก ได้มากที่สุด อย ากเลี้ยงลูกให้ดี เลิกทำ 10 สิ่งที่ ทำ ร้ า ย จิตใจลูก

1.มองข้ามการแสดงความคิดเห็นของลูก

ผู้ใหญ่มักแสดง ความไม่พอใจ ต่อเ ด็ กที่ประพฤติตัวไม่ดี โดยอาจใช้การดุด่ า ต่อว่า แต่เ ด็ กร้อยละ 90 ไม่สามารถแสดงอาการไม่พอใจในตัวผู้ใหญ่ออ กมาได้ และหากกล่าวว่าผู้ใหญ่ผิ ดก็ทำให้มองว่าเป็นเ ด็ กไม่ดี ทำตัวไม่เหมาะสม ซึ่งในความเป็นจริงแล้วพ่อแม่สามารถเป็นแบบอ ย่ างให้ลูกในการแสดงออ ก และเปิดใจให้กว้างต่อ การฟังความคิดเห็นจากทุกคนในครอบครัว ยอมรับความผิ ดถูกและช่วยกันแก้ปัญหา เพื่อให้ลูกกล้าแสดงออ ก และรู้จักที่จะยอมรับในสิ่งผิ ด อันจะเป็นรากฐานต่อ การใช้ชีวิตในสังคมเมื่อเขาเติบโตขึ้น

2.ทำ ร้ า ย ความมั่นใจของลูก

พ่อแม่หล า ยคน เผลอไป ทำ ร้ า ย ความมั่นใจของลูกโดยไม่รู้ตัว เข่น การพูดถึงข้ อด้อยของลูกต่อผู้อื่น หรือในที่สาธารณะ หรือ การบังคับให้ลูกทำอะไรโดยที่เขายังไม่พร้อมหรือ กล้า การทำแบบนี้ของพ่อแม่ จะทำให้ลูกกล า ยเป็นคนข า ดความมั่นใจและ ทำ ร้ า ย จิตใจของลูกได้นะคะ

3. ใช้ถ้อยคำ รุ น แ ร ง ด่ าว่าลูก

การใช้ถ้อยคำที่ว่า กล่าวตักเตือน เมื่อเ ด็ กทำผิ ด ไม่ใช่การด่ าว่า ใช้คำ รุ น แ ร ง ส่ อ เ สี ย ด เพื่อให้เ ด็ กกลัวหรือหลาบจำ เ พ ร า ะการทำแบบนี้นอ กจากจะทำให้ลูกรู้สึกไม่ดี ยังทำให้เ ด็ กไม่มีความสำนึกผิ ด หนำซ้ำยังคิดจะทำครั้งต่อไปแบบที่ ไม่ทำให้โดนจับได้เพื่อจะได้ไม่โดนด่ า แถมยังเกิดการเลียนแบบถ้อยคำ ห ย า บ ค า ย จากผู้ใหญ่อีกด้วย

4. เมินเฉยกับการทำดีของลูกหรือรู้สึกยินดีแบบผ่าน ๆ

ผู้ใหญ่มักมองเห็นความสำเร็จเล็ก ๆ ของลูกเป็นเพียง เรื่องเล็กน้อย และให้ความยินดีแค่เพียง ๆ ผ่าน แทนที่จะมองว่าผลลัพธ์ในสิ่งที่ลูกทำได้ดีนั้น จะเป็นการต่อยอ ดไปสู่ผลงานหรือความสำเร็จ ที่ดีในอนาคตของเขาได้หากได้รับการส่งเสริมที่ดีจากพ่อแม่ การเมินเฉยหรือ การยินดีแค่เพียง ชั่ ว ขณะ อาจทำให้ลูกรู้สึกไม่มั่นใจและไม่ภาคภูมิใจกับความสำเร็จที่เกิดขึ้นได้

5. เปิดเผยความลับของลูกให้คนอื่น

แท้จริงแล้วพ่อแม่คือที่ปรึกษาที่ดีที่สุดของลูก แต่เ ด็ กในสังคมไทยปัจจุบัน กลับเลือ กปรึกษาเพื่อนก่อนพ่อแม่ ซึ่งอาจจะเป็นเ พ ร า ะว่าบางเรื่องพ่อแม่เห็นว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ หรือเป็นเรื่องที่มองข้าม ความสำคัญของลูกไป หรือแก้ปัญหาไม่ตรงจุด จนลูกมองว่า พ่อแม่ช่วยอะไรไม่ได้ แต่สาเหตุหลักคือเรื่องของความลับที่เ ด็ กไม่อย ากให้คนจำนวน มากรู้

หากมีเรื่องสำคัญนั้น ร้อยละ 80 ลูกมักจะเลือ กบอ กแม่ แต่แม่ก็อาจจะนำความลับนี้ไปปรึกษาพ่อหรือคนอื่น ซึ่งการทำแบบนี้อาจทำให้เ ด็ กเกิดความรู้สึกไม่ไหววางใจหรือเชื่อใจ ที่จะบอ กความลับตนเอง จึงมักทำให้เกิดปัญหาต ามมาทีหลังได้

6. นำเรื่องที่เคยทำผิ ดของลูกมากล่าวว่าซ้ำ ๆ

ผู้ใหญ่ส่วน มากเวลาดุ เ ด็ กที่ทำผิ ด มักจะนำเรื่องของลูกที่เคยทำผิ ดมาแล้วมากล่าวว่าซ้ำ ๆ เหมือนเป็นการตอ กย้ำซ้ำเติมลูกเข้าไปอีก และร้อยละ 50 ที่แสดงอาการแบบนี้จะหยุด ก็ต่อเมื่อเ ด็ กเกิดอาการเ สี ยใจ การทำแบบนี้ถือเป็นการกระทำที่ทำ ร้ า ยจิตใจลูกได้มาก และจะทำให้เ ด็ กเกิดความรู้สึก เ จ็ บ ใจ โ ก ร ธ จนทำให้ลูกไม่คิดจะปรับปรุงตัวให้เป็นเ ด็ กที่ดีขึ้นง่าย ๆ แน่

7. ลงโ ท ษเมื่อลูกทำผิ ด

พ่อแม่จำนวน มาก คิดว่าการลงโ ท ษ คือวิธีที่จะทำให้เ ด็ กจดจำและจะไม่ทำผิ ดอีก แต่กลับตรงกันข้ามวิธีนี้จะทำให้ทำให้ลูกรู้สึกเ สี ยใจ กล า ยเป็นเ ด็ กที่เก็บกด และกลัวความผิ ดพลาดจนกล า ยเป็นคนขี้ระแวงได้ วิธีที่ถูกต้องที่สุดคือ การปลอบ เมื่อลูกทำผิ ดพลาด อธิบายเหตุผลว่าทำไมนี้คือสิ่งที่ลูกทำผิ ด จะมีผลเ สี ยอ ย่ างไร พร้อมทั้งแนะนำ ช่วยกันหาวิธีคิดแก้ปัญหาให้กับลูกหรือใช้วิธีลงโ ท ษแบบนุ่มนวล เช่น การลงโ ท ษแบบ time in หรือ time out

8. อารมณ์เ สี ยใส่ลูก

พ่อแม่ที่อารมณ์เ สี ย หรือทะเลาะกัน บางครั้งก็มักจะอารมณ์เ สี ยใส่ลูกโดยไม่รู้ตัว หรือพาลไปหาเรื่องลูก ลงใส่ลูก การทำแบบนี้ นอ กจากจะเป็นการ ทำ ร้ า ย จิตใจลูกโดยง่ายแล้ว ยังทำให้ลูกรู้สึกว่าพ่อแม่ไม่มีเหตุผลจนไม่คิดจะเชื่อถือได้

9. ใช้ความ รุ น แ ร ง กับลูก

หมดยุค การลงโ ท ษโดยใช้ ไ ม้ เ รี ย ว ตี ลูกเพื่อสร้างให้เป็นคนดีกันแล้ว เ พ ร า ะการตีหรือใช้ความ รุ น แ ร ง กับเ ด็ กไม่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงหรือปรับนิสัยลูกให้เป็นไปต ามที่พ่อแม่คาดหวังได้ แต่จะเป็นการซ้ำเติมให้ลูกมีปมภายในใจหนักขึ้นไปอีก ความ รุ น แ ร ง ระหว่างพ่อแม่ทะเลาะกัน หรือความ รุ น แ ร ง ที่ทำต่อลูกล้วนเป็นสิ่งที่ไม่ดี ที่ยิ่งทำให้ลูกมีอาการต่อต้านหนักขึ้น และจะกล า ยเป็นภาพจำ ทำให้ลูกกล า ยเป็นเ ด็ กก้าวร้าวต่อไปได้ในอนาคต

10. เอาความคิดของตัวเองเป็นหลักและไม่ใจกว้างที่จะเข้าใจลูกตัวเอง

พ่อแม่อาจจะจดวันเดือนปีเกิด ของลูกได้ รู้ว่าลูกชอบกินอะไรหรือไม่ชอบอะไร ฯลฯ แต่การรู้จักลูกในสิ่งเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่า คนเป็นพ่อแม่จะเข้าใจในสิ่งที่ลูกคิดได้ หากคุณยังต้องการให้ลูกต้องทำนู่นนั่นนี่ในแบบที่พ่อแม่คิด โดยไม่ถามความสมัครใจหรือไม่ได้สังเกตอาการ สีหน้า ความสุข ของลูกเลย

พ่อแม่ทุกคนอย ากเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่า จะห้ามตี ห้ามดุไปเลยทีเดียว แต่ควรทำแบบพอ ดีไม่มากเกินไป ควรใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ ใช้ความจำเป็นให้มากกว่า ความต้องการ เพื่อไม่เป็นการ ทำ ร้ า ย จิตใจลูก และสร้างลูกให้เป็นคนดีต่อไป เพื่อความภูมิใจของคุณพ่อคุณแม่เมื่อเขาเติบโตขึ้น มานะคะ

ที่มา t h.t h e a s i a n p a r e n t .  yindeeyindee

Related posts