อ ย่ าสอนให้ลูกเก่งอ ย่ างเดียว พ่อแม่ยุคใหม่ต้องสอนให้ลูกเอาตัวรอ ดเป็น

พ่อแม่ทุกคนก็หวังเล็ก ๆ ว่าลูกของเรานั้น จะต้องเป็นเ ด็ กที่สมบูรณ์และเพียบพร้อมในทุก ๆ สิ่ง ทั้งสุ ข ภ า พร่างกาย จิตใจ รวมไปถึงการเรียน ซึ่งถ้าพูดถึงการเรียน เชื่อเลยว่าคุณพ่อคุณแม่ทุกคน ก็หวังมาก ๆ ที่จะให้เขากล า ยเป็นเ ด็ กที่เรียนเก่ง และประสบความสำเร็จด้านการเรียนกว่าใคร ๆ

เ พ ร า ะด้วยความเชื่อที่ว่า เ ด็ กที่เรียนเก่ง มักจะประสบความสำเร็จในหล า ย ๆ ด้าน แถมยังเป็นหน้าเป็นต าให้กับพ่อแม่อ ย่ างเรา ๆ อีกด้วย เป็นเรื่องธรรมดานะคะ ที่พ่อแม่ทุกคนล้วนอย ากที่จะให้ลูกเรียนเก่ง เราก็จะเห็นได้ว่า นอ กจากการเรียนในห้องเรียน ที่เยอะซะจนเ ด็ ก ๆ เครียดแล้ว ก็ยังต้องไปเรียนพิเศษกันต่ออีก

เพื่อเสริมความฉลาดของลูก เพื่อให้เขาประสบความสำเร็จ และเป็นหน้าเป็นต าแก่พ่อแม่ ซึ่งการเรียนหนัก ๆ มันก็มีทั้งข้ อ ดีและข้ อเ สี ยนะคะ เ ด็ ก ๆ ที่เรียนอ ย่ างเดียว เรียนกันตั้งแต่อนุบาลเนี่ย ทำให้เ สี ยโอกาสหล า ย ๆ อ ย่ างเลยนะคะ เ พ ร า ะสิ่งที่จำเป็นต่อ การใช้ชีวิต นอ กจากการเรียนแล้ว

ก็ยังมีเรื่องอื่น ๆ ที่เ ด็ ก ๆ ต้องเรียนรู้อีก ทำให้เ ด็ ก ๆ ข า ดทักษะชีวิต ที่จะได้เรียนรู้เพื่อให้อยู่รอ ดในสังคมอีกด้วย ทำให้พ่อแม่บางคนก็อาจจะกลับมาคิดว่า หรือเราควรสอนให้เขารู้จักเอาตัวรอ ดมากกว่า ซึ่งปัจจุบันโลกก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอ ย่ างรวดเร็ว จนเกิดผลสำรวจว่า 84 เปอร์เซ็นต์ของพ่อแม่ยุคนี้

อย ากให้ลูกมีพัฒนาการและความพร้อมรอบด้าน ทั้งทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม มากกว่าพัฒนาทางด้านสมองดีขึ้น เป็นอัจฉริยะเพียงอ ย่ างเดียว นอ กจากนี้ ก็ยังมีผลสำรวจ จากคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ที่ว่า 5 อันดับเหตุผล ทำไมแค่อัจฉริยะอ ย่ างเดียวไม่พอ สำหรับเ ด็ กยุคนี้ ได้แก่

อันดับที่ 1 อย ากให้ลูกเข้าสังคมและอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้

อันดับที่ 2 พ่อแม่อย ากให้ลูกดำรงชีวิตได้อ ย่ างมีความสุข

อันดับที่ 3 พ่อแม่อย ากให้ลูกเรียนรู้ ฝึกฝนในทุก ๆ ด้าน

อันดับที่ 4 อย ากให้ลูกมีภูมิคุ้มกัน ปรับตัวเก่งและยอมรับความผิ ดหวังได้

อันดับที่ 5 อย ากให้ลูกสมบูรณ์พร้อม ทั้งทางร่างกายและจิตใจ

ซึ่งวันนี้เราก็มีเทคนิคสอนให้ลูกเอาตัวรอ ดมาฝากกัน จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย

1. สร้างรหัสลับระหว่างพ่อแม่และลูก

เวลาอยู่ห่างกันหรืออยู่ในสถานการณ์ที่ดูไม่ปลอ ดภั ย ให้ส่งรหัสนี้เมื่อต้องการ เพื่อความเข้าใจ และเราจะได้ไปช่วยลูกให้ปลอ ดภั ยให้เร็วที่สุด

2. ถ้าเป็นไปได้ อ ย่ าให้ลูกติดข้ อมูลส่วนตัวไว้บนข้าวของเครื่องใช้

เช่น กระเป๋าสะพาย กิ๊บ กล่องข้าว เ พ ร า ะเมื่อคนแปลกหน้ารู้ชื่อ จะทำให้เข้าถึงลูกได้ง่ายขึ้น จนเ ด็ ก ๆ หลงเชื่อได้

3. หากรู้สึกว่ามีใครขับรถต ามอยู่ ให้วิ่งกลับไปในทิศทางตรงข้ามกับรถนั้น

4. หากพลัดหลง หรือรู้สึกว่าไม่ปลอ ดภั ยให้มองหาคุณพ่อคุณแม่ เพื่อขอความช่วยเหลือก่อนเป็นอันดับแรก

5. หากเกิดอะไรขึ้นเกี่ยวกับร่างกาย ต้องไม่เก็บเป็นความลับ ให้รีบบอ กพ่อแม่ทันที

6. ถ้ามีคนแปลกหน้าพย าย ามจะจับตัว

ให้ทิ้งความมีมารย าททั้งหมด และพย าย ามส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือให้คนอื่น ๆ รับรู้

7. หากมีคนอื่น ๆ ที่ร้องขอความช่วยเหลือ

อ ย่ าคิดว่าสถานการณ์นั้นเป็นเรื่องเท็จหรือจริงแค่ไหน เ พ ร า ะมันอาจจะตรงข้ามกับสิ่งที่เราคิดไว้ ให้ลูกรู้จักตะโกนร้อง เพื่อบอ กคนอื่น ๆ ให้ช่วยเหลือได้ แต่ยังไงก็ต าม เรื่องเอาตัวรอ ดหรือ การเรียนเก่งนั้น จริง ๆ คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถทำให้เขาได้ควบคู่กันไปนะคะ ซึ่งการเรียนก็ไม่ใช่ว่าจะมีสิ่งแย่หรือไม่ดีกับลูก แต่อยู่ที่ความพอ ดีต่างหากที่ควรจะมี เ พ ร า ะคนไม่เก่งที่ประสบความสำเร็จก็มีถมไป

ไม่ควรคิดหรือเอาตัวอ ย่ างคนที่เรียนไม่จบ หรือเรียนไม่เก่งมาเป็นข้ ออ้างในการที่จะให้ลูกตั้งใจเรียนเลย ทุกอ ย่ างขึ้นอยู่กับการเรียนรู้ โอกาส และการใช้ชีวิตอยู่ในสังคมมากกว่า ตอนนี้ก็แค่ขอให้เขาได้ลองเรียนรู้ในสิ่งที่เขาอย ากทำดู และเราก็คอยให้กำลังใจ และสอนเขาในเส้นทางที่พอ ดีและเหมาะสม เท่านี้เ ด็ ก ๆ ก็จะกล า ยเป็นคนที่เรียนดี และอยู่รอ ดในสังคมได้อ ย่ างสบาย ๆ แล้วล่ะค่ะ

ที่มา fahhsai  na-aan

Related posts