จริงอยู่ที่ไม่มีใครอย ากจนหรอ ก แต่บางครั้งเราก็จำเป็นที่ต้องจน ทั้งแบบตั้งใจและแบบไม่ตั้งใจ ความจนแบบไม่ตั้งใจเป็นเพราะเราเลือ กเกิดไม่ได้ เมื่อเราต้องเกิดมาในครอบครัว ที่ย ากจน ไม่ได้ร่ำร ว ย นั่นถือว่าเป็นการจนแบบไม่ได้ตั้งใจ ส่วนการจนแบบตั้งใจนั้น ก็ห ม า ยถึงเราไม่มีเงิ น เพราะเราเองไม่ขยัน ไม่อ ดทน หรือเราอาจเคยร ว ย
เคยมีฐานะดี แต่ที่เราต้องจนแบบตั้งใจก็เพราะเกิดจาก การสร้างห นี้ การใช้เ งินฟุ่มเฟือย ไม่ระมัดระวังให้คนอื่น ยืมเงิ นแล้วโดนหนีห นี้ ทำธุรกิจไม่ประสบความสำเร็จ ล้มละล า ย จนทำให้กล า ยเป็นคนจนแบบตั้งใจแบบนี้ไปได้ เมื่อต้องอยู่ในสถานะ ที่เรียกว่าจนแล้ว ก็แปลว่าเราจนเงิ น ไม่มีเงิ นใช้จ่ายได้สบาย ไร้กังวล
เงิ นที่ได้มาอาจจะพอหรือไม่พอ กับค่าใช้จ่ายด้วยซ้ำ หากอย ากได้สิ่งของอะไร ก็ไม่สามารถซื้อได้อ ย่ างที่ใจหวัง ต้องรอและบางครั้งก็ไม่รู้ว่า จะต้องรออีกถึงเมื่อไหร่ ความจนนั้นแบ่งได้หล า ยระดับ จน มากหรือจนน้อย จน มากก็ห ม า ยถึง จนถึงขนาดต้องเป็นห นี้ ร า ยได้ไม่พอค่าใช้จ่าย ต้องหยิบยืมกู้ห นี้มา
ส่วนจนน้อย ก็อาจจะห ม า ยถึงมีร า ยได้แค่เพียงพอ กับค่าใช้จ่ายเท่านั้น อาจไม่ถึงกับเป็นห นี้ แต่ก็ไม่มีเงิ นเหลือเก็บพอ ที่จะยกฐานะของตัวเอง ให้ดีขึ้น จนพ้นจากความจนไปได้ มีคนเคยแบ่งความจนไว้ เป็น 4 แบบด้วยกัน มาดูกันว่า เราอยู่ในข่ายไหนของความจนกันบ้าง
1.จนเงิ น
คนจนเงิ น ก็คือคนที่ไม่มีเ งิน หรือมีเงิ นน้อยน้อย จนไม่เพียงพอ ที่จะดูแลตัวเอง หรือครอบครัวได้ ความห ม า ยของจนเงิ น มักเป็นความจนที่คนทั่วไปเข้าใจกัน
2.จนเวลา
คนจนเวลา ก็คือคนที่ไม่มีเวลา หรือมีเวลาน้อยจนไม่สามารถ ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการจะทำได้ คนจนเวลาบางคน มีเ งิน แต่ไม่มีเวลาใช้เงิ น เพราะมัวแต่หาเงิ นส่วนคนจน เวลาบางคน ก็ไม่มีเงิ นด้วย เรียกว่าจนทั้งเวลาและจนทั้งเงิ น
3.จนโอกาส
คนจนโอกาสก็คือคนที่แทบไม่มีโอกาสที่ดี เข้ามาในชีวิตเลย หรืออาจมีแต่เราไม่ไขว่คว้าไว้ บางคนก็ตีอ กชกหัวตัวเอง ว่าเรานั้นทั้งประหยัด ทั้งขยัน ชีวิตมีแต่คิดดี ทำดี ทำไม ไม่เห็นได้ดีบ้าง นอ กจากประหยัดขยันและเป็นคนดีแล้ว เรายังต้องฉลาดด้วย ฉลาดในการเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับชีวิตของเรา อาชีพบางอ ย่ างไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่เป็นอาชีพที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เมื่อทำงานไปถึงจุดหนึ่ง ก็ควรที่จะต้องหาทางขยับขย าย เพื่อให้เราได้รับโอกาสใหม่ๆบ้าง
4.จนความคิด
คนจนความคิด ก็คือคนที่คิดน้อย หรือคนที่ไม่มีความคิดนั่นแหละ ความคิดของคนที่จนความคิด จะวนเวียนอยู่แต่กับสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ เช่น คิดแต่ดูถูกตัวเองว่า ทำไม่ได้คิดแต่ว่าชาตินี้ เราจะไม่มีวันร ว ย คิดว่าคนอื่นเก่ง เราไม่เก่งเหมือนเขา เราไม่มีทางทำได้แบบเขา คิดว่าก็เขาเกิดมาร ว ยเราไม่ได้ร ว ย
เหมือนเขาเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย เราทำไม่ได้หรอ ก อาชีพเสริมเราไม่ไหว สุขภาพเราไม่ดีฯลฯ คิดแบบนี้แล้ว โอกาสหล า ยๆอ ย่ างในชีวิต ก็ต้องหลุดลอยไป ไม่ว่าจะเป็นการจนแบบไหนก็ต าม ก็ไม่เป็นผลดีกับชีวิตทั้งนั้น การจนเรื่องเ งินยังเป็นของนอ กกาย ที่หากเราไม่จนความคิดไปด้วย ชีวิตก็ยังมีโอกาส
ที่จะเปลี่ยนแปลงได้หากเราไม่มีเงิ นไม่มีเวลา และไม่มีโอกาสดีๆ แถมเรายังมีความคิดที่ไม่ถูกต้อง หรือมีทัศนคติที่ไม่ดี กับการดำเนินชีวิตของเรา ชีวิตของเรานั้นก็คงจะจนเหมือนเดิม ไม่มีใครสามารถช่วยอะไรเราได้ นอ กจากตัวเราเอง สำคัญที่สุดคือต้องเปลี่ยนแปลงความคิดก่อน
นั่นคืออันดับแรกที่จะทำให้เรามีชีวิต ที่ก้าวพ้นจากความจนที่แท้จริงไปได้ เงิ นเป็นของแปลก เรามักจะอย า กมีเงิ น มากๆกัน และคิดว่าเมื่อเรามีเงิ นเท่านั้นเท่านี้ แล้วก็จะพอเพราะชีวิตของเรา ก็จะมีความสุขแต่เพราะเหตุใด คนร ว ยถึงไม่หยุด คนร ว ยบางคนเมื่อร่ำร ว ยมีเ งินทองมากมาย
ก็ยังหาความร ว ยกันต่อไป เมื่อมีมากก็อย ากมีมากขึ้นไปอีก แทนที่จะมีความสุข ก็กล า ยเป็นสร้างความกังวล และความทุ ก ข์ การเขียนแบบนี้ ไม่ได้ห ม า ยความว่า ต้องเป็นคนจนถึงจะดี เพราะเมื่อร ว ยจะเป็นทุ ก ข์ไม่ใช่ทุกคน จะเป็นแบบที่ว่า เพียงแต่ต้องการจะบอ กว่า ไม่ว่าจะเป็นคนจนหรือคนร ว ย เราก็สามารถมีความสุขได้เหมือนกัน
หากเราจน ไม่มีเ งินเราก็อ ย่ าจนความคิดไปด้วย ให้มองแง่ดีของการ ที่เราไม่ต้องดูแลท รั พ ย์สมบัติมากมาย หรือมีเกียรติยศชื่อเ สี ยงค้ำคอ การเลือ กกินอาหาร การแต่งตัวของเรา สามารถทำได้แบบต ามสบาย ไม่ต้องเป็นทางการ เหมือนกับคนร ว ย นอ กจากนั้นให้เราคิดในแง่ดี ถึงศักยภาพในตัวเราเองว่า เราสามารถทำอะไรได้อีกมาก
เพื่อยกระดับฐานะของตัวเราเอง เพื่อที่วันหนึ่ง ไม่เพียงแต่เราจะมีชีวิตในรูปแบบที่เราต้องการ แต่เราอาจจะยังสามารถช่วยเหลือ ผู้อื่นได้ด้วยการคิดแบบจรรโลงใจ แบบนี้ทำให้เรามีกำลังใจ และก้าวเดินไปข้างหน้าอ ย่ างมีความสุขได้
ที่มา moneyhub stand-smiling